ประวัติของโดเรม่อนตั้งแต่จุดกำเนิดและลักษณะพิเศษรวมทั้งเรื่องราวตอนจบของโดเรม่อนทั้งสองแบบ |
Doraemon : โดเรม่อน วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2512 เป็นวันที่เริ่มต้นพิมพ์หนังสือการ์ตูนเรื่อง "Doraemon" ในประเทศญี่ปุ่น โดยจินตนาการของนักเขียนชาวญี่ปุ่นสองคน ที่ใช้นามปากการ่วมกัน ว่า ฟูจิโกะ ฟุจิโอะ โดยตัวการ์ตูนจะเป็นเรื่องราวของหุ่นยนต์ในโลกอนาคต ศตวรรษที่ 22 ซึ่งจินตนาการให้เป็นแมวตัวกลมๆ มีความสามารถพิเศษ และกระเป๋าวิเศษที่บรรจุของมากมาย จุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือเด็กผู้ชาย ที่ขี้แย ไม่เอาไหน คนนึง และสอดแทรกคติธรรมเข้าไป ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก ชื่อโดราเอมอน มาจากคำว่า...โดราเนโกะ แปลว่า แมวหลงทาง เอมอน เป็นคำเรียกต่อท้ายชื่อของเด็กชายในสมัยก่อน โดราเอมอน เกิดขึ้นโดยความบังเอิญในขณะที่ 2 นักเขียนการ์ตูนชื่อฮิโรชิ ฟูจิโมโต และโมโตโอะ อาบิโกะขณะที่กำลังจินตนาการ สร้างการ์ตูนตัวใหม่ด้วยความลำบาก และกดดัน เนื่องจากเหลือเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงจะถึงกำหนดส่งต้นฉบับ บังเอิญเหลือบเห็นตุ๊กตาของลูกสาว ทำให้นึกต่อไปถึงตุ๊กตา แมวล้มลุก และกลายเป็นโดราเอมอนในที่สุด การ์ตูนเรื่องโดเรม่อน มีจุดเด่นในเรื่องของจินตนาการ สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ในโลกอนาคต ที่ผู้อ่านทั่วไปคาดไม่ถึง จากปลายปากกาของ อ. ทั้งสองที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมทั้งสอดแทรกศิลปะวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเข้าไปในตัวการ์ตูน แบ่งลักษณะนิสัยของคนออกมาในแต่คาแร็คเตอร์ได้อย่างลงตัว เหมือนกับนำเอาชีวิตจริงของผู้อ่านเข้าไปเกี่ยวข้องกับการ์ตูนด้วย ดังนั้นการ์ตูนเรื่องนี้จึงเป็นที่นิยม อ่านได้ทุกเพศทุกวัย จนทำให้มีการพิมพ์การ์ตูนเรื่องนี้มากมาย สามารถขายได้ถึง 100 ล้านเล่มใน ญี่ปุ่น และแปลเป็นภาษาต่างๆ ทั่วโลก ถึง 9 ภาษา รวมทั้งภาษาไทยอีกด้วย นอกจากการ์ตูนแล้ว โดเรม่อน ถูกสร้างออกมาเป็นภาพยนต์ทางจอเงิน และจอแก้วมากมายหลายตอน โดยฉายครั้งแรกที่ฮ่องกง เมื่อปี พ.ศ. 2524 และฉายที่ประเทศไทยเราครั้งแรก วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2525 |
ส่วนประกอบต่างๆ ของ โดเรม่อน
เรื่องราวตอนจบของโดเรม่อน
แบบที่1
วันหนึ่ง ฉากในโรงพยาบาล โนบิตะตื่นขึ้นมา และเจอพ่อกับแม่และเพื่อนๆครบทุกคน ยืนอยู่รอบเตียงแล้วโนบิตะก็ถามถึงโดราเอม่อนแต่ทุกคนกลับปฎิเสธว่าไม่รู้จักและบอกกับโนบิตะว่า โนบิตะหลับมานานเป็นปีแล้วเนื่องจากไม่สบาย และโนบิตะก็นึกย้อนถึงเรื่องราวเกี่ยวกับโดราเอม่อนทั้งการผจญภัยต่างๆ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงความฝันเท่านั้น โดราเอม่อนและโดเรมี ล้วนเป็น ความฝันของเขาทั้งสิ้น โนบิตะเป็นเด็กที่ไม่แข็งแรงและไม่มีเพื่อนรักที่จะอยู่ด้วย เขาต้องนอนโรงพยาบาลตลอดเวลาและเขาก็หลับไป ฉากต่อมา เริ่มที่ พ่อแม่และเพื่อนๆของโนบิตะร้องไห้กันอยู่ในงานศพของ โนบิตะ..เขาจากไปก่อนวัยอันควร. และเรื่องราวทุกอย่างก็จบลง ที่โนบิตะฝันถึงโดราเอม่อนและอนาคตนั้น เป็นเพราะเขารู้ดีว่า เขาจะต้องตายในอีกไม่นาน เขาจึงอยากที่จะมีอนาคต อยากที่จะมีเพื่อนรัก อยากจะผจญภัยสนุกสนาน แต่ฝันของเขาก็ไม่มีวันเป็นจริง... ตลอดไป...... |
แบบที่2
บ่ายวันหนึ่ง ซึ่งก็เป็นวันธรรมดาเหมือนวันอื่นทั่วไป โนบิตะกลับมาจากโรงเรียนและวิ่งขึ้นชั้น2 ไปที่ห้องของเขา โดราเอม่อนกำลังนอนอยู่ในห้อง ...ซึ่งก็เป็นเหมือนปกติทุกๆวัน "เฮ?! โดราเอม่อนตื่นเถอะแล้วไปเล่นด้วยกัน" โนบิตะชวน 2-3 ชั่วโมงต่อมา เมื่อโนบิตะกลับถึงบ้าน เขาพยายามจะปลุกโดราเอม่อนแต่ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ ถึงตอนนี้โนบิตะรู้ชัดเจนแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติ โนบิตะเริ่มร้องไห้ แล้วโนบิตะก็เกิดความคิดขึ้นมา! หลังจากนั้นไทม์แมชชีน กลับมายังปี 1998 โนบิตะได้ยินดังนั้นก็โล่งใจและบอกกับโดเรมีว่า แต่..โดเรมีส่ายหน้าและพูดขึ้นว่า "อะ... อะไรนะ โดเรมี เธอหมายความว่ายังไง??" "แล้วมันหมายความว่ายังไงล่ะ" โนบิตะสงสัย "อะไรนะ?????? " "แล้วเธอยังจะให้ฉันเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้อย่างนั้นหรือ" โนบิตะหลับตาแล้วร้องไห้... โดเรมีจังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเพื่อช่วยโนบิตะดี หลังจากโดเรมีกลับไปโนบิตะอุ้มโดราเอม่อนไปนอนในตู้ของโดราเอม่อนตามเดิม วันเวลาผ่านไป........... ชิซูกะรู้สึกประทับใจในท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างเหลือเชื่อของโนบิตะ
ซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง โนบิตะเติบโตเป็นนักวิทยาศาสตร์ เขาได้สร้างห้องของเขาให้กลายเป็นห้องทดลอง แต่แล้ววันหนึ่งเขากลับเรียกชิซูกะให้เข้าไปในห้องของเขา และเมื่อชิซูกะเข้าไป เธอถึงกับตกใจจนพูดไม่ออก.... โดราเอม่อนไม่ได้เคลื่อนไหว ดูเหมือนว่าเขากำลังหลับ "ดูนะชิซูกะ ฉันจะเสียบปลั๊กเดี๋ยวนี้แหละ.." นั่นเป็นช่วงเวลาสำหรับคำถามที่ทุกคนอยากรู้ว่า"ผู้ประดิษฐ์โดราเอม่อน..
คือใคร" ที่โนบิตะเรียนอย่างหนักและทุ่มเทก็เพื่อที่จะได้พบได้คุยกับเพื่อนเก่าของเขาอีกครั้งหนึ่ง โนบิตะและชิซูกะร้องไห้เบา ๆด้วยความยินดี... เมฆสีขาวบริสุทธิ์ยังคงลอยล่องอยู่บนท้องฟ้าเหมือนดังวันก่อน |